เมื่อวันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน 2568 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม จัดกิจกรรมการแสดง “เกร็ดโขน” (Miscellany of Khon) ณ โรงละครคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์ สืบสาน และเผยแพร่ศิลปะการแสดงโขน ซึ่งถือเป็นศิลปะชั้นสูงของไทยให้แก่ประชาชนในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

การแสดง “เกร็ดโขน” เป็นการนำเสนอองค์ความรู้และความงดงามของโขนไทยในรูปแบบร่วมสมัย ผ่านการผสมผสานการเคลื่อนไหว ลีลาท่ารำ เครื่องแต่งกาย และบทสนทนาอย่างกลมกลืน เพื่อเข้าถึงผู้ชมในยุคปัจจุบัน ทั้งยังสื่อสารถึงกระบวนการเบื้องหลังของศิลปินโขน ความประณีตในการฝึกฝน และคุณค่าของโขนในฐานะมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติอย่างลึกซึ้ง

เบื้องหลังความสำเร็จของการแสดงครั้งนี้ ได้รับการขับเคลื่อนอย่างเข้มแข็งโดย นายจิตติ ชมพี หัวหน้าทีมนักแสดง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำกับ ฝึกซ้อม และวางโครงสร้างการแสดงให้สามารถถ่ายทอดเนื้อหาศิลปวัฒนธรรมไทยได้อย่างลึกซึ้งและทันสมัย โดยอาศัยทั้งองค์ความรู้ด้านโขน การดูแลทีมศิลปินอย่างใกล้ชิด และการประสานงานด้านเทคนิคการแสดงให้เป็นไปอย่างเรียบร้อยสมบูรณ์

ภายในงานได้รับเกียรติจาก ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน ที่ปรึกษาและภัณฑารักษ์โครงการ ร่วมพบปะกับผู้เข้าร่วมงาน พร้อมกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ในการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย โดยมีการกล่าวต้อนรับจาก รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วยผู้แทนจากกระทรวงวัฒนธรรมและจังหวัดขอนแก่นเข้าร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง

ในการจัดงานครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจากแขกผู้มีเกียรติจากหลากหลายหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยขอนแก่น อาทิ นางสาวเพชรรัตน์ สายทอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม, นายประจวบ รักแพทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น, ผศ.ดร.บุรินทร์ เปล่งดีสกุล คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ รวมถึงคณบดีและผู้อำนวยการจากหน่วยงานต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่น เข้าร่วมชมการแสดงอย่างคับคั่ง สะท้อนถึงความร่วมมือและความสำคัญของกิจกรรมในครั้งนี้อย่างยิ่ง

กิจกรรมประกอบด้วย การฉายภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับโขน รวมถึงการพูดคุยกับท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน ตลอดจน การแสดง “เกร็ดโขน” โดยคณะนักแสดงจากส่วนกลาง ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากคณาจารย์ นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเป็นจำนวนมาก นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานราชการและสถาบันอุดมศึกษาในการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย และจุดประกายแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นใหม่ให้เห็นคุณค่าของศิลปะไทยอย่างยั่งยืน