เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับ บริษัท สมาร์ท คอนซัลติ้ง แอนด์ ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับศูนย์แลกเปลี่ยนและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม หรือ Belt and Road Environmental Technology Transfer Center (B&RETTC) ภายใต้โครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Initiative) ณ เมืองเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยภายในงานได้รับเกียรติจากผู้บริหารของทั้งสามหน่วยงานร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรรฆพร ก๊กค้างพลู หัวหน้าโครงการวิจัย “การพัฒนานโยบายด้านการค้าการลงทุนรูปแบบใหม่ เพื่อสนับสนุนการค้าและการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจระหว่างไทย–จีน” คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดร.วรรณิภา คุดสีลา นักวิจัยและหัวหน้าทีมพัฒนาแพลตฟอร์ม รองศาสตราจารย์ ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กร หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท. หรือ PMU A) และ Mr. Hao Mingtu ผู้อำนวยการศูนย์แลกเปลี่ยนและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม (B&RETTC)
โดยการลงนามในครั้งนี้ มี B&RETTC เป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนการถ่ายทอดเทคโนโลยีสีเขียวและนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างไทย–จีน และมีหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท. หรือ PMU A) หน่วยงานของรัฐบาลไทย ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช. หรือ NXPO) ซึ่งสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมในระดับพื้นที่และเมืองคาร์บอนต่ำ เพื่อกำหนดกรอบความร่วมมือแบบไม่ผูกพันทางกฎหมาย ในประเด็นที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจร่วมกัน โดยส่งเสริมความร่วมมือผ่านการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ การจับคู่ทางธุรกิจ และนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีแผนการพัฒนาร่วมกันคือ “แพลตฟอร์มการลงทุนอุตสาหกรรมไทย–จีน” โดยแต่ละฝ่ายจะประสานงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายในประเทศของตน เพื่อเชื่อมโยงภาคธุรกิจ สถาบันการศึกษา และองค์กรภาครัฐ เข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ทุกฝ่ายจะร่วมกันจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมจัดการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทน เพื่อเปิดโอกาสทางการค้าข้ามพรมแดนและการลงทุนระหว่างประเทศ และอีกหนึ่งภารกิจสำคัญคือการร่วมกันพัฒนา “แพลตฟอร์มข้อมูลขนาดใหญ่” เพื่อจัดแสดงสินค้าเทคโนโลยีสีเขียว ส่งเสริมโครงการและสร้างการมีส่วนร่วมผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งมีการแบ่งบทบาทชัดเจน โดยศูนย์แลกเปลี่ยนและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม (B&RETTC) รับผิดชอบโครงสร้างพื้นฐานและสนับสนุนด้านเทคนิค ในส่วนของคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น จะเป็นหน่วยงานที่นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนและการฝึกอบรม ด้านบริษัท สมาร์ท คอนซัลติ้ง แอนด์ ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด ทำหน้าที่ประสานกับภาคธุรกิจในพื้นที่ เพื่อบริหารจัดการข้อมูลฝั่งผู้ใช้งาน และหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท. หรือ PMU A) จะสนับสนุนให้แพลตฟอร์มนี้สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาพื้นที่และส่งเสริมการใช้แพลตฟอร์มในเมืองและกลุ่มเป้าหมายในประเทศไทย
ผศ.ดร.อรรฆพร ก๊กค้างพลู หัวหน้าโครงการวิจัย “การพัฒนานโยบายด้านการค้าการลงทุนรูปแบบใหม่ เพื่อสนับสนุนการค้าและการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจระหว่างไทย–จีน” คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า แนวคิด Belt and Road ของจีนในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพสูง โดยเฉพาะในด้านนวัตกรรมสีเขียวและการพัฒนาเขตต้นแบบในเมืองเซินเจิ้น ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมแบบครบวงจรที่เชื่อมโยงภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษา สื่อ และการเงิน เพื่อพัฒนาเมืองให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมเทคโนโลยีสีเขียวและคาร์บอนต่ำ
หัวหน้าโครงการวิจัยฯ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า งานวิจัยครั้งนี้ยังมุ่งเน้นการออกแบบนโยบายการค้าและการลงทุนรูปแบบใหม่ โดยอาศัยความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐบาลจีนและนักวิชาการจากจีนอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมกันสร้างโมเดลการลงทุนที่ตอบโจทย์ประเทศไทยทั้งในมิติเชิงพื้นที่และเทคโนโลยี โดยเฉพาะในด้านพลังงานสะอาด การจัดการสิ่งแวดล้อม และอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ ทั้งนี้ยังมีการร่วมมือกับ B&RETTC ซึ่งมีจุดแข็งด้านเทคโนโลยีสีเขียวและระบบบ่มเพาะธุรกิจ เพื่อร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มการลงทุนสีเขียว การจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ การฝึกอบรม และการสร้างฐานข้อมูลเทคโนโลยีสีเขียว รวมถึงระบบรับรองธุรกิจสีเขียว เพื่อยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการไทย–จีนให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล
ด้าน ดร.วรรณิภา คุดสีลา หัวหน้าทีมพัฒนาแพลตฟอร์ม กล่าวว่า ความพิเศษของแพลตฟอร์มนี้ คือการผสานองค์ความรู้ของไทยเข้ากับเทคโนโลยีจากจีน โดยมีการประสานงานใกล้ชิดกับสำนักงาน BOI การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IEAT) และศูนย์เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมจากจีน เพื่อให้การลงทุนเกิดขึ้นอย่างยั่งยืนและตรงจุด โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการสร้าง “จุดเชื่อมโยงการลงทุน” ระหว่างนักลงทุนจีนและโอกาสในพื้นที่เศรษฐกิจของไทย ผ่าน 4 กลไกหลัก ได้แก่ (1) แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับเผยแพร่ข้อมูลการลงทุน (2) หลักสูตรอบรมที่ออกแบบร่วมกับผู้เชี่ยวชาญไทย–จีน (3) กิจกรรมเยี่ยมชมพื้นที่จริงและนิคมอุตสาหกรรม และ (4) การจับคู่ธุรกิจระหว่างนักลงทุนจีนกับโครงการไทยที่ผ่านการคัดเลือก
นอกจากนี้ รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กร บพท. ซึ่งร่วมเป็นพยานในการลงนาม กล่าวว่า งานวิจัยเชิงพื้นที่จะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันศักยภาพผู้ประกอบการในระดับท้องถิ่น สู่การเติบโตในระบบเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับทุน เทคโนโลยี และความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุน รวมถึงสร้างความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมในกลุ่มผู้ประกอบการไทย
ขณะเดียวกัน Mr. Hao Mingtu ผู้อำนวยการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม B&RETTC (Belt and Road Environmental Technology Transfer Center) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ได้กล่าวถึงบทบาทของศูนย์ฯ ในฐานะพันธมิตรหลักของความร่วมมือไทย–จีน ศูนย์ B&RETTC มีพันธกิจหลักในการส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีสีเขียวจากประเทศจีนมายังประเทศไทย โดยดำเนินงานร่วมกับภาคเอกชนท้องถิ่น หน่วยงานรัฐ และสถาบันการศึกษา เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม และยกระดับความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมให้เกิดผลอย่างยั่งยืนในระดับภูมิภาค
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ สะท้อนภาพของการพัฒนาที่มีทิศทางชัดเจนและนำไปสู่การสร้าง “ระบบนิเวศความร่วมมือไทย–จีน” ซึ่งไม่เพียงเป็นกลไกด้านเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นต้นแบบของนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ความร่วมมือดังกล่าวยังเป็นการผสานองค์ความรู้ เทคโนโลยี และทุนจากจีน เข้ากับบริบทพื้นที่และความต้องการของไทยอย่างสอดคล้องและเหมาะสม นอกจากนี้ ยังเป็นการขับเคลื่อนการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และส่งเสริมการลงทุนในทิศทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในระยะยาว