นักวิจัย มข.เปลี่ยนเศษปลาเหลือทิ้ง สร้างนวัตกรรม “BIONOURIX” สารเสริมประสิทธิภาพพืช ตอบโจทย์ Zero Waste

บ้านวังหินซา ต.ขนวน อ.หนองนาคำ จ.ขอนแก่น เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่อยู่รอบเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ชาวบ้านส่วนใหญ่ดำรงชีวิตด้วยการทำประมง จับปลาและแปรรูปเป็นปลาร้า ปลาส้ม และผลิตภัณฑ์อื่นๆจากปลาเพื่อเลี้ยงชีพในรูปแบบวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแปรรูปปลา แต่สิ่งที่ตามมาคือ ปัญหาเศษซากปลาเหลือทิ้ง ที่ไม่มีใครอยากพูดถึง เศษซากปลาที่เหลือจากการชำแหละแต่ละครัวเรือนสะสมมากกว่า 100 ลิตรทุก ๆ 3–4 วัน และเมื่อหาที่กำจัดไม่ได้ ของเสียเหล่านี้จึงถูกเทลงร่องน้ำของหมู่บ้าน  กลายเป็นมลพิษส่งกลิ่นเหม็น สร้างความเดือดร้อนให้ทั้งชุมชน

ปัญหานี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องสิ่งแวดล้อม หากแต่เป็นความท้าทายของการอยู่ร่วมกันระหว่างวิถีชุมชนกับธรรมชาติ ผศ.สมพร เกษแก้ว รักษาการแทนรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และทีมงานของศูนย์ประสานงานฯ ได้ลงพื้นที่และเล็งเห็นว่า ขยะเหล่านี้อาจกลายเป็น “โอกาส” หากสามารถแปรรูปเพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้

จากแนวคิดดังกล่าว ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ศูนย์วิจัยเครื่องจักรกลเกษตรและวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงได้ร่วมกันจัดโครงการบริการวิชาการ พัฒนาเป็นนวัตกรรม “สารเสริมประสิทธิภาพพืช BIONOURIX” (Organic Liquid Plant Stimulation) ที่ไม่เพียงแก้ปัญหาขยะเศษปลา แต่ยังช่วยสร้างคุณค่าใหม่ให้กับเกษตรกร

นวัตกรรมจากเศษปลา สู่สารเสริมประสิทธิภาพพืช Zero Waste 100%

BIONOURIX ใช้หลักการ Zero Waste 100% โดยนำเศษปลามาผ่านกระบวนการสลายทางชีวภาพ เติมจุลินทรีย์ สารอาหาร ธาตุหลัก ธาตุรอง รวมถึงสารไฟโตเคมิคอล (Phytochemicals) ที่สกัดได้จากพืชในท้องถิ่น ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของพืชมารวมไว้ด้วยกัน จนได้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมประสิทธิภาพพืชที่ปลอดภัย 100% และตรงตามมาตรฐาน

เมื่อนำไปใช้กับผักสวนครัวหรือพืชเศรษฐกิจ เช่น มันสำปะหลัง อ้อย แตงโม กล้วย มะละกอและผักสวนครัวต่างๆ พบว่า พืชแข็งแรงขึ้น มีภูมิคุ้มกันต่อโรคและแมลง สามารถเจริญเติบโตได้ดีแม้ในดินเค็มหรือดินเสื่อมสภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วิธีการใช้งานก็ง่าย เพียงผสม BIONOURIX 20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7–10 วัน

ตั้งเป้าต่อยอดถ่ายทอดองค์ความรู้สู่คนรุ่นใหม่ในชุมชนอย่างยั่งยืน

ผศ.สมพร ระบุอีกว่า นวัตกรรมนี้พัฒนามานานกว่า 1 ปี และเริ่มส่งต่อไปยังเครือข่ายเกษตรต่างๆและ Young Smart Farmer เพื่อทดสอบใช้จริงในแปลงเกษตร ผลตอบรับสะท้อนถึงความเป็นไปได้ทั้งในแง่สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ “สิ่งสำคัญ คือ เราต้องการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้คนรุ่นใหม่ เห็นว่าของเสียสามารถสร้างประโยชน์ ลดต้นทุนปุ๋ย และสร้างรายได้ให้ชุมชนได้จริง และมองหาผู้คนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนานวัตกรรมนี้ให้เกิดขึ้นจริงในชุมชน” 

อย่างไรก็ตาม จากเศษปลาที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นปัญหาสำคัญของชุมชน วันนี้กำลังถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นนวัตกรรมที่ช่วยบำรุงพืช แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และสร้างความหวังใหม่ให้กับวิถีชีวิตชาวบ้านอย่างยั่งยืน หากมีการสนับสนุนด้านงบประมาณมากขึ้น ระบบการผลิตและการพัฒนานวัตกรรมนี้จะสมบูรณ์และขยายผลได้กว้างกว่าเดิม สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : Facebook ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มหาวิทยาลัยขอนแก่ และ ศูนย์วิจัยเครื่องจักรกลเกษตรและวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว มข. 

ศึกษาศาสตร์ มข. จัดพิธีบวงสรวงวางแผ่นมงคล “อาคารครัวกลางและห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์การประกอบอาหาร” โรงเรียนสาธิตฯ มุ่งเป็นศูนย์กลางอาหารคุณภาพและการเรียนรู้ครบวงจร

Scroll to Top