top-banner

นักศึกษาพยาบาล มข. สุดเจ๋ง! คว้าแชมป์ระดับประเทศ AmHealthHack 2025 ชูนวัตกรรม “Grow-up” สร้างสะพานโอกาส ลดการตีตราให้ผู้ผ่านการบำบัด

ผลงาน “Grow-up” แพลตฟอร์มสื่อกลางเชิงสังคม ตอบโจทย์ความยั่งยืนของ SDGs และขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ Future-Ready KKU สร้างบัณฑิตพยาบาลยุคใหม่ที่พร้อมรับอนาคต

มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) สร้างชื่อด้านนวัตกรรมและสุขภาพอีกครั้ง เมื่อนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 ทีม “I see u” สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ในการแข่งขัน Hackathon ระดับประเทศ โครงการ AmHealthHack 2025 ที่จัดขึ้นโดยสมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งเอเชีย (ประเทศไทย) เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ โดยผลงานที่สร้างความประทับใจให้กับคณะกรรมการ คือ “Grow-up: สะพานโอกาสเพื่อชีวิตใหม่ของผู้ผ่านการบำบัดยาเสพติด” ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่บูรณาการความรู้ทางการพยาบาลเข้ากับเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 3.5) ได้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมรับทุนสนับสนุนโครงการจำนวน 14,000 บาท เพื่อต่อยอดสู่การใช้งานจริงในระดับประเทศต่อไป
ผลงานนวัตกรรมที่ทำให้ทีม “I see u” คว้าชัยชนะคือ “Grow-up: สะพานโอกาสเพื่อชีวิตใหม่ของผู้ผ่านการบำบัดยาเสพติด” ซึ่งเป็นผลงานที่คณะกรรมการชื่นชมในด้านแนวคิดที่ยั่งยืนและตอบโจทย์ปัญหาสังคมในประเด็นด้านยาเสพติดและการสร้างความเท่าเทียม ได้รับเกียรติบัตร และทุนสนับสนุนโครงการมูลค่ารวม 14,000 บาทนวัตกรรมที่เชื่อมโยง 3 ภาคส่วนหลัก
การแข่งขัน AmHealthHack 2025 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “The Wild Beyond: Health Innovation for SDG 3.5” โดยมุ่งเน้นการค้นหานวัตกรรมที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ข้อที่ 3.5 ว่าด้วยการเสริมสร้างการป้องกันและบำบัดการใช้สารเสพติด ซึ่งมีทีมจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศเข้าร่วมประชันไอเดียกว่า 40 ทีม

ทีม “I see u” ซึ่งประกอบด้วย นางสาวกัญญาวีร์ สอดศรี, นางสาววัชราภรณ์ คำสาริรักษ์, นางสาวกิ่งแก้ว สารโพคา และนางสาววิภาวี สีใคร ได้นำเสนอแนวคิดหลักของแพลตฟอร์ม “Grow-up” ที่วางอยู่บนหลักการ “ลดการตีตรา – สร้างโอกาส – ฟื้นคืนคุณค่า”

สมาชิกทีม “I see u” เปิดเผยถึงแรงบันดาลใจในการสร้างนวัตกรรมนี้ว่า โครงการ Grow-up คือการพัฒนา แพลตฟอร์มสื่อกลางเชิงสังคม (Bridge Platform) ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงผู้ผ่านการบำบัด ผู้ประกอบการ และชุมชน เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างเครือข่ายการทำงานที่เปิดกว้าง ปราศจากการตีตรา และสนับสนุนให้ผู้ผ่านการบำบัดสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี เป็นการเปลี่ยนบทบาทของพวกเขาจาก “ผู้รับ” ให้กลายเป็น “ผู้ให้” ในสังคม

“นวัตกรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดโอกาสการกลับไปเสพซ้ำ (Relapse) แต่ยังสอดคล้องกับ SDGs ข้อที่ 8.5 ว่าด้วยการส่งเสริมการจ้างงานที่มีประสิทธิผลและงานที่เหมาะสมสำหรับทุกคนอีกด้วย”

บทบาทอาจารย์ที่ปรึกษาในการเติมเต็มองค์ความรู้พยาบาล
ความสำเร็จของทีมนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ รองศาสตราจารย์ ดร.เนตรชนกแก้ว จันทา และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ขวัญสุดา บุญทศ ในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษาที่คอยชี้นำทางความคิด
ผศ. ดร.ขวัญสุดา บุญทศ หนึ่งในอาจารย์ที่ปรึกษา เปิดเผยว่า ถึงแม้ทีมนักศึกษาจะเป็นเพียงนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ซึ่งอาจยังไม่มีความรู้ด้านการพยาบาลที่ลุ่มลึกนัก แต่ผลงานที่เสนอนั้น มีแนวคิดที่สร้างสรรค์และทรงพลังต่อสังคม

ผศ. ดร.ขวัญสุดา บุญทศ
ผศ. ดร.ขวัญสุดา บุญทศ

“ทีมอาจารย์เข้ามาช่วย ปรับมุมมองและแนวคิด (Shape the concept) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสริมมิติทางการพยาบาลที่ใช้ได้จริงเข้าไปในแพลตฟอร์ม เช่น การติดตามอาการ (Monitoring) ของผู้บำบัด เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขามีอาการคงที่ก่อนกลับไปทำงานในสังคม รวมถึงการวิเคราะห์และระบุ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลัก (Key Stakeholders) เพื่อให้แพลตฟอร์มสามารถสร้างความเท่าเทียมและใช้งานจริงได้” ผศ. ดร.ขวัญสุดา กล่าว

ผลักดัน “พยาบาลยุคใหม่” ผ่านนวัตกรรม
ผศ. ดร.ขวัญสุดา แสดงความชื่นชมอย่างยิ่งต่อผลงานของนักศึกษา โดยระบุว่ารู้สึกภาคภูมิใจที่นักศึกษามองเห็นคุณค่าของความเสมอภาคทางสังคม และเลือกที่จะช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง

“โครงการนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนกลุ่มนี้ได้อย่างตรงจุด และยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของคณะพยาบาลศาสตร์ ในการผลิต ‘พยาบาลมืออาชีพ’ และ ‘พยาบาลยุคใหม่’ ที่สามารถนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพการดูแลผู้ป่วยและการพัฒนาสังคมได้จริง”

การตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ “มหาวิทยาลัยขอนแก่นที่พร้อมสำหรับอนาคต”
โครงการ “Grow-up: สะพานโอกาสเพื่อชีวิตใหม่” ของทีมนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ไม่ได้เป็นเพียงนวัตกรรมด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “มหาวิทยาลัยขอนแก่นที่พร้อมสำหรับอนาคต” (Future-Ready KKU) ซึ่งมุ่งสู่การเป็น “A World-Leading Research and Development University” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตอบสนองต่อเสาหลักที่สำคัญถึงสองด้านของมหาวิทยาลัยได้แก่ การมีส่วนร่วมของสังคมและชุมชนผ่านวัฒนธรรม อย่างชัดเจน ด้วยการสร้างผลกระทบต่อสังคมโดยตรง โครงการมุ่งเน้นการแก้ปัญหาสังคมในกลุ่มเปราะบาง (ผู้ผ่านการบำบัดยาเสพติด) โดยใช้ความเชี่ยวชาญทางวิชาการเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อคุณภาพชีวิต สอดคล้องกับการส่งเสริมการบูรณาการที่แท้จริงกับชุมชน แพลตฟอร์ม “Grow-up” ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางที่เชื่อมโยงผู้ผ่านการบำบัดกับผู้ประกอบการและชุมชน สร้างเครือข่ายสังคมที่ไม่ตีตรา และเสริมสร้างความเท่าเทียม (Equity) ในการเข้าถึงโอกาสการทำงานและการกลับคืนสู่สังคมอย่างมีคุณค่า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน

โครงการนี้ยังส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิชาการและนวัตกรรม การนำแนวคิดเชิงนวัตกรรม (Bridge Platform) มาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาการกลับไปใช้ยาเสพติดซ้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์เฉพาะด้านของภูมิภาค

ความสำเร็จนี้ยังเป็นการส่งเสริมสมรรถนะของ “พยาบาลยุคใหม่” ที่สามารถบูรณาการความรู้ทางการแพทย์เข้ากับเทคโนโลยีและการคิดสร้างสรรค์ ซึ่งตอกย้ำถึงเป้าหมายของมหาวิทยาลัยในการผลิตบุคลากรที่มีสมรรถนะสูง พร้อมรับมือกับความท้าทายในโลกอนาคต

การตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
ทั้งนี้ โครงการ “Grow-up” ยังเป็นเป็นนวัตกรรมที่สนับสนุนแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยเน้นการตอบสนองหลักใน 2 เป้าหมายสำคัญในด้าน สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health) โดยโครงการช่วยลดการกลับไปเสพซ้ำ (Relapse) ในผู้ที่ผ่านการบำบัดยาเสพติด โดยทำหน้าที่เป็นเครื่องมือติดตามอาการและสนับสนุนให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการป้องกันและบำบัดการใช้สารเสพติด และตอบสนองด้านงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Decent Work) ซึ่ง แพลตฟอร์ม “Grow-up” เชื่อมโยงผู้ผ่านการบำบัดกับผู้ประกอบการ เพื่อสร้าง โอกาสในการทำงานที่เหมาะสม และปราศจากการตีตรา ซึ่งช่วยให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างมีคุณค่าและบรรลุการจ้างงานอย่างมีประสิทธิผล

สำหรับทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ จะได้รับโอกาสในการขอรับทุนสนับสนุนจากมูลนิธิเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ กรมประชาสัมพันธ์ เพื่อต่อยอดนวัตกรรม “Grow-up” สู่การใช้งานในระดับประเทศต่อไป ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ AmHealthHack 2025 ที่มุ่งหวังพัฒนาศักยภาพเยาวชนในการบูรณาการองค์ความรู้และทักษะการออกแบบเพื่อสร้างเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืน.

 

ข่าว: เบญจมาภรณ์ มามุข
ภาพ: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

Scroll to Top