(วันที่ 2 ธค. 2568) ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยกระดับการรักษาผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบรุนแรง ด้วยหัตถการ TAVI (Transcatheter Aortic Valve Implantation) หรือการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอออร์ติกโดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดหน้าอก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัย โดยเฉพาะในผู้ป่วยสูงอายุหรือผู้ที่ไม่เหมาะสมต่อการผ่าตัดใหญ่
นพ.ดนณ แก้วเกษ อายุรแพทย์หัวใจและหลอดเลือด กล่าวว่า โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบขั้นรุนแรงเป็นภาวะที่พบได้มากในผู้สูงอายุ และอาจนำไปสู่อาการเหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก เวียนศีรษะ หรือภาวะหัวใจล้มเหลวได้ การรักษาแบบดั้งเดิมคือการผ่าตัดเปิดหน้าอกเพื่อเปลี่ยนลิ้นหัวใจ แต่ผู้ป่วยบางรายมีความเสี่ยงสูง ไม่เหมาะกับการผ่าตัด วิธี TAVI จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ ซึ่งข้อดีของ TAVI คือไม่ต้องเปิดหน้าอก ไม่ต้องหยุดหัวใจ โดยแพทย์จะผ่าตัดใส่ลิ้นหัวใจเทียมผ่านทาง หลอดเลือดแดงที่ขาหนีบ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วมาก หลายรายกลับบ้านได้ภายใน 2–3 วัน
ในส่วนของขั้นตอนการรักษา ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ ใช้เทคโนโลยีลิ้นหัวใจรุ่นใหม่ที่พัฒนาให้วางตำแหน่งได้แม่นยำ ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน เช่น เลือดออก หลอดเลือดบาดเจ็บ หรือการนำไปสู่ภาวะการเต้นผิดจังหวะ ทีมแพทย์ Heart Team ซึ่งประกอบด้วยแพทย์โรคหัวใจ แพทย์หัตถการ แพทย์ศัลยกรรมหัวใจ วิสัญญีแพทย์ และทีมพยาบาลเฉพาะทาง จะร่วมกันวางแผนการรักษาและประเมินอย่างละเอียดในผู้ป่วยแต่ละราย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยที่สุด
ด้าน รศ.นพ.ภัทรพงษ์ มกรเวส ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า อัตราความสำเร็จในการรักษา TAVI ของศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ อยู่ในระดับมาตรฐานสากล และผู้ป่วยส่วนใหญ่มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างชัดเจน สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยสิ่งสำคัญคือผู้ป่วยต้องได้รับการตรวจประเมินที่ถูกต้อง หากมีอาการเหนื่อยง่ายผิดปกติ เวียนศีรษะ หรือหมดสติ ควรมาพบแพทย์โดยเร็ว เพราะการรักษาในระยะแรกเริ่มช่วยลดอัตราเสี่ยงและเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้มาก
ปัจจุบัน ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ พร้อมให้บริการด้านการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบด้วยเทคโนโลยี TAVI ครบวงจร โดยมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพเพื่อให้ประชาชนในภาคอีสานเข้าถึงการรักษาที่ทันสมัย ปลอดภัย และได้มาตรฐานระดับนานาชาติ
