สภามหาวิทยาลัยขอนแก่นปรับทิศทางครั้งใหญ่ ! เดินหน้า 4 เสาหลักยุทธศาสตร์ใหม่ มุ่งสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับภูมิภาค

การประชุมสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น ครั้งที่ 5/2568 วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ถือเป็นจุดเริ่มต้นแห่งศักราชใหม่ในการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใต้การนำของ ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี นายกสภามหาวิทยาลัย ที่มุ่งผลักดันให้ มข. ก้าวขึ้นเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาภูมิภาคอีสานและประเทศไทย

โดยในที่ประชุมได้ร่วมแสดงความยินดีกับ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล ที่ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นต่อเป็นวาระที่ 2 มีผลตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ สภามหาวิทยาลัยยังได้อนุมัติแต่งตั้งรองอธิการบดี 10 ตำแหน่ง ตามคำสั่งที่ 4154/2568 ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2568

ผศ.ดร.เด่นพงษ์ สุดภักดี รองอธิการบดีฝ่ายดิจิทัล และเลขานุการสภามหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า “สภามหาวิทยาลัยได้แสดงความยินดีกับท่านอธิการบดีที่รับพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นต่ออีกวาระหนึ่ง และได้มีการกำหนดแนวคิดในการวางนโยบายอนาคตร่วมกับท่านอธิการบดีด้วย”

“การแต่งตั้งรองอธิการบดีครั้งนี้มีการปรับเปลี่ยนที่สำคัญ 2 ตำแหน่ง ได้แก่ การแต่งตั้งรองอธิการบดีฝ่ายวิจัย โดยเพิ่มคำว่า ‘นวัตกรรม’ เข้ามา และการปรับเปลี่ยนจากรองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ เป็นรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและนวัตวณิชย์ ซึ่งการปรับเปลี่ยนนี้สืบเนื่องจากการปรับยุทธศาสตร์ของสภามหาวิทยาลัย โดยเฉพาะการนำเอานวัตกรรมของมหาวิทยาลัยขอนแก่นออกไปสู่เชิงพาณิชย์ โดยได้มอบหมายให้ รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช เป็นผู้ดูแลภารกิจสำคัญนี้”

เลขานุการสภามหาวิทยาลัยยังระบุถึงประเด็นสำคัญของการประชุมครั้งนี้ คือการกำหนดนโยบายของสภามหาวิทยาลัยชุดที่ 28 โดย ดร.ณรงค์ชัย ได้นำเสนอการปรับเปลี่ยนจากกรอบแนวคิด “PES” (People, Ecological, Spiritual) ที่ใช้มาประมาณ 6-7 ปี มาเป็นกรอบยุทธศาสตร์ใหม่ 4 เสาหลัก (4 Pillars) เพื่อรองรับการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของมหาวิทยาลัย

ผศ.ดร.เด่นพงษ์ อธิบายว่า “กระบวนการของ PES ต้องมีการปรับเปลี่ยน เพื่อสอดรับกับสถานะของมหาวิทยาลัยที่มีความก้าวหน้าไปมาก และขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยที่เป็น Game Changer ในอนาคต จึงมีการพูดคุยกันด้วย 4 Pillar หรือ 4 เสาใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น”

ดร.ณรงค์ชัย นายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้อธิบายถึงบริบทแวดล้อมที่ทำให้มหาวิทยาลัยต้องปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ว่า “ภาวะเศรษฐกิจของโลกไม่ดี ประเทศใหญ่ๆ ในโลกที่เคยมีความประสงค์จะช่วยเหลือประเทศที่พัฒนาน้อยกว่าก็เปลี่ยนนโยบาย ไม่ค่อยอยากจะช่วยแล้ว การค้าขายในโลกก็แข่งขันกันมากขึ้น เราจะไปหวังพึ่งภาคต่างประเทศเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้ มหาวิทยาลัยมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีบทบาทในการช่วยให้ประเทศ ให้สังคม สามารถที่จะเจริญ ภายใต้ภาวะที่มีการแข่งขันสูงในโลก กรรมการก็มีความเห็นว่าเรามีความสามารถในการที่จะเพิ่มบทบาทของเรา เราจะทำเพื่อให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายนั้นในอนาคตได้”

ในประเด็นวิสัยทัศน์ใหม่นี้ ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี นายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้อธิบายว่า “ตอนนี้เรามีสภาชุดใหม่ ชุดที่ 28 เราจำเป็นต้องกำหนดว่าสภาชุดนี้ต้องการเห็นอะไร ต้องการให้อะไรเกิดขึ้นสำหรับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ความเห็นคือมหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความพร้อมที่จะสร้างความเจริญเพิ่มขึ้น มีเป้าหมายการเป็นสถาบันชั้นนำในด้านการศึกษาและช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติด้วย”

สำหรับเสาหลักแรกนั้น มุ่งเน้นความเป็นเลิศทางวิชาการและนวัตกรรม “เป้าหมายแรก คือ Academic Excellence and Innovation การทำให้วิชาการของเราโดดเด่น ทั้งการเรียนการสอนและการวิจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับภาคอีสานเป็นพิเศษ เกี่ยวข้องกับประเทศที่ใกล้กับภาคอีสาน เช่น GMS ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีนตอนใต้ที่อยู่ใกล้กับเรามากที่สุด” นายกสภามหาวิทยาลัยกล่าว

นายกสภาฯ ยังเน้นย้ำว่าการสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการนั้นเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง เนื่องจากต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน “ถ้าจะทำในแง่ของวิชาการแล้วสามารถที่จะโดดเด่นได้ ต้องมีความร่วมมือกันในหลายๆ ภาควิชา เพราะนักวิชาการที่ทำการสอนและการวิจัยมักจะคิดเป็นเรื่องของตัวเองมากกว่าเรื่องของกลุ่ม ในขณะที่ปัญหาที่เผชิญอยู่ในสังคมมักจะเป็นปัญหาหลายมิติ ถ้าจะแก้ปัญหาจะเข้าใจปัญหา มันต้องทำร่วมกันหลายกลุ่ม”

เสาหลักที่สองเกี่ยวข้องกับการบูรณาการหลักการ ESG กับการพัฒนามหาวิทยาลัยอัจฉริยะ  ดร.ณรงค์ชัย ได้อธิบายว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีแผนที่จะพัฒนาพื้นที่ให้เป็นต้นแบบของ Smart Campus ที่ชุมชนอื่นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ โดยใช้เทคโนโลยีและ AI ในการบริหารจัดการทรัพยากรและการให้บริการต่างๆ

“อันที่ 2 คือ Smart Campus and ESG Integration  ซึ่ง Campus เรานี่ใหญ่มาก 5,000 กว่าไร่ 6,000 ไร่ มีทรัพยากรเยอะ มีคณาจารย์ที่เก่ง นักศึกษาประมาณ 40,000 คน แล้วก็มีคนเข้ามาใช้บริการต่างๆ มากมายใน Campus ของเรา ต้องมีความสามารถในการที่จะให้บริการ ใช้เทคโนโลยี ใช้ AI มาบริหาร ให้เป็น Campus เป็นตัวอย่าง”

สำหรับเสาหลักที่สาม เน้นการ ใช้ทรัพยากรของมหาวิทยาลัยอย่างเหมาะสมเพื่อการเติบโตและมีความยั่งยืนOptimization of University Resources for Growth and Sustainability เรื่องของทรัพยากร เงิน ทรัพยากรคน ทรัพยากรทั้งหลาย การที่เราจะมีภาระมากขึ้น เรามีความจำเป็นต้องหารายได้มากกว่าเดิม ปัจจุบันเรามีงบประมาณ 20,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากภาครัฐ ส่วนหนึ่งเราหาเอง” นายกสภาฯ กล่าว

ในประเด็นนี้ นายกสภามหาวิทยาลัยยังคาดการณ์ว่า “ในอนาคตอัตรางบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐจะน้อยลงเรื่อยๆ ในขณะที่งบประมาณของเราจะเพิ่มขึ้นเกิน 20,000 ไปเป็น 30,000 ล้านบาท มีความจำเป็นที่จะต้องหาเอง” ท่านยังได้ยกตัวอย่างการสร้างรายได้จากทรัพย์สินที่มีอยู่ เช่น “ที่หอศิลป์ ตอนนี้ก็มีการเปิดให้ศิลปินมาขายงาน แล้วก็แบ่งจากรายได้ของเขา รวมไปถึงผลงานวิจัยจากอาจารย์เก่งๆ ที่สามารถแปลงออกไปเป็นสินค้า บริการ ฉะนั้นทรัพย์สินทางปัญญาเราก็ต้องทำ”

“ตอนนี้เรามีทรัพย์สินที่เป็นเงิน ไม่ว่าจะเป็นในรูปใดใด ประมาณ 20,000 ล้าน ซึ่งก็สร้างรายได้ให้แก่มหาวิทยาลัยปีหนึ่ง เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 4% ต่อปี เราจึงต้องทำตรงนี้ให้มันมากขึ้น ยิ่งกว่าเดิม เรียกว่าเอาทรัพยากรมาใช้เพื่อสนองนโยบาย”

เสาสุดท้าย การมีส่วนร่วมของสังคมและชุมชนผ่านวัฒนธรรม (Societal Contribution via Cultural Involvement and Community Integration)  มุ่งเน้นการเชื่อมโยงมหาวิทยาลัยกับชุมชนและสังคมโดยรอบ ผ่านการส่งเสริมวัฒนธรรมและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน “ข้อที่ 4 เรามีกิจกรรมที่ประสานเข้ากับชุมชนในจังหวัดขอนแก่น จังหวัดใกล้เคียง เราก็จะส่งเสริมโดยใช้วัฒนธรรมอีสานให้มันทันสมัย ให้เป็นที่นิยม  ไม่ว่าจะเป็นในอีสานเอง หรือนอกอีสาน หรือ นานาชาติด้วยเช่นเดียวกัน รวมทั้งการไปช่วยชุมชนต่างๆที่ต้องทำต่อเนื่อง เราต้องสื่อกับชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณาจารย์ พนักงานของ มข.” เพื่อสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน”นายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวปิดท้าย

ผศ.ดร.เด่นพงษ์ สุดภักดี เลขานุการสภามหาวิทยาลัย กล่าวเพิ่มเติมว่ายุทธศาสตร์ 4 เสาหลักนี้จะต้องมีการพัฒนาต่อยอดโดยฝ่ายบริหารของมหาวิทยาลัย “ท่านอธิการบดี รองอธิการบดี รวมไปถึง ผู้บริหารของคณะทุกส่วนจะต้องเข้ามาร่วมกันปรับยุทธศาสตร์ให้สามารถที่จะสอดรับกับ 4 เสา แล้วก็ทำให้เราใช้ประโยชน์จากยุทธศาสตร์ในการเป็นเหมือนกับเป็น Road Map เป็นเส้นทางที่เราจะขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยในอนาคต”

สำหรับการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ของมหาวิทยาลัยขอนแก่นในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่กำหนดทิศทางการพัฒนาของมหาวิทยาลัยในอนาคตเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับบทบาทของสถาบันการศึกษาในการพัฒนาประเทศและภูมิภาค ท่ามกลางบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและท้าทาย การขับเคลื่อน 4 เสาหลักยุทธศาสตร์ใหม่นี้จะเป็นกลไกสำคัญที่จะนำพามหาวิทยาลัยขอนแก่นไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับภูมิภาคที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป

สามารถชมรายการ  Inside Council  Ep8 สภาฯ มข.ปรับทิศทางครั้งใหญ่ เปิด 4 เสาหลักยุทธศาสตร์ มุ่งสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำ ได้ที่นี่ คลิก 

 

Scroll to Top