วันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันภาษาไทยแห่งชาติ” เพื่อระลึกถึงคุณค่าและความสำคัญของภาษาไทยในฐานะภาษาประจำชาติที่สืบทอดภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของไทยมาอย่างยาวนาน และในปีนี้ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เดินหน้านำภาษาไทยก้าวไกลสู่เวทีโลก ผ่านการจัดตั้ง ศูนย์การสอนภาษาและวัฒนธรรมไทย (Centre for Thai Language and Culture) ณ เมืองลีดส์ สหราชอาณาจักร โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยลีดส์ (University of Leeds) และวัดพุทธาราม เมืองลีดส์ สร้างพื้นที่การเรียนรู้ภาษาไทยในต่างแดนอย่างเป็นรูปธรรม
รศ.ดร.อรทัย เพียยุระ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อถ่ายทอดอัตลักษณ์ทางภาษาและวัฒนธรรมไทยให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ตามวิสัยทัศน์ “คณะชั้นนำด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ในระดับโลก” โดยเฉพาะกลุ่มลูกครึ่งไทย–อังกฤษในต่างประเทศ รวมถึงชาวต่างชาติที่สนใจเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมไทย ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจ “อุทิศเพื่อสังคม” ของมหาวิทยาลัย ที่เน้นสร้างประโยชน์และความยั่งยืนให้แก่สังคมทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ที่ผ่านมา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เปิดหลักสูตรให้ชาวต่างชาติได้มาเรียนรู้ภาษาไทยในแต่ละปีการศึกษามากกว่า 200 คน จากหลากหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น จีน ฝรั่งเศส ฯลฯ สะท้อนให้เห็นว่า “ภาษาไทย” ยังคงเป็นภาษาที่มีความน่าสนใจในระดับนานาชาติ และสามารถเป็นเครื่องมือในการเชื่อมโยงความเข้าใจข้ามวัฒนธรรมได้อย่างแท้จริง
ด้วยความสนใจในภาษาไทยในระดับสากลนี้ นำมาสู่การจัดตั้งศูนย์การสอนภาษาและวัฒนธรรมไทย (Centre for Thai Language and Culture) ที่วัดพุทธาราม เมืองลีดส์ สหราชอาณาจักร ผ่านหลักสูตรนำร่องที่มีกำหนดเปิดสอนระหว่างวันที่ 11 – 22 สิงหาคม 2568 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เน้นเนื้อหาภาษาไทยเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ผสมผสานการเรียนรู้วัฒนธรรมไทย อาทิ การร้อง การรำ และการประดิษฐ์สิ่งของตามประเพณีไทยต่าง ๆ เพื่อปลูกฝังความเข้าใจในวิถีไทยผ่านกิจกรรมที่เข้าถึงง่ายและสนุกสนาน
นอกจากมิติของการเรียนรู้ภาษาในเชิงวิชาการแล้ว แนวทางการจัดการเรียนการสอนยังสอดรับกับยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม รศ.ดร.อรทัย ระบุว่า “ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคของความหลากหลาย ภาษาก็เช่นเดียวกันกับความ Varieties of language ดังนั้น ในฐานะผู้สอนภาษาไทยจะเน้นการเรียนการสอนโดยใช้ภาษามาตรฐาน (Standard Thai) เป็นหลัก แต่ก็จะมีการเพิ่มเติมความหมายใหม่ ๆ ตามการลื่นไหลของภาษา เพื่อให้สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน โดยยังต้องให้ความสำคัญกับการใช้ระดับภาษาที่เหมาะสมกับบุคคลและสถานการณ์”
นอกจากนี้ ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ไปฝึกสหกิจศึกษา ในประเทศอังกฤษ ถ่ายทอดภาษาไทยให้ชาวต่างชาติในบริบทจริง พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนักศึกษานานาชาติในพื้นที่ โดยมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยลีดส์ร่วมถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมไทยประจำศูนย์ฯ ด้วย
ศ.มาร์ติน ซีเกอร์ และ อ.อัจฉราวรรณ เซเกอร์ จากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ภาควิชาไทยศึกษา มหาวิทยาลัยลีดส์ กล่าวว่า “วัดพุทธารามในเมืองลีดส์นั้น อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยเพียง 500 เมตร เพียงเดินข้ามสวนสาธารณะก็เหมือนได้ก้าวเข้าสู่พื้นที่ประเทศไทยขนาดย่อม พร้อมบรรยากาศแบบไทยแท้ ทำให้การจัดการเรียนรู้ที่นั่นมีความหมายอย่างยิ่ง ไม่เพียงในฐานะห้องเรียนภาษา แต่ยังเป็นพื้นที่เชื่อมโยงวัฒนธรรมข้ามพรมแดนอย่างลึกซึ้ง”
ทั้งนี้ การได้เรียนภาษาไทยในต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ศูนย์ฯ นี้จะช่วยให้เด็กและเยาวชนไทยในต่างแดนได้เรียนรู้อย่างเป็นระบบ และสร้างความผูกพันกับรากเหง้าวัฒนธรรมของตนเอง ขณะเดียวกันสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยลีดส์แล้ว การได้ฝึกประสบการณ์และแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมไทยที่ศูนย์ฯ จะช่วยเพิ่มโอกาสด้านอาชีพ และเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ซึ่งจะสะท้อนอยู่ในแฟ้มสะสมผลงานสำหรับสมัครงานของพวกเขาในอนาคตอีกด้วย
จากเมืองลีดส์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นตั้งเป้าขยายศูนย์ฯ ต่อเนื่องไปยังประเทศที่มีชุมชนไทยขนาดใหญ่ เช่น เยอรมนีและเดนมาร์ก โดยมองว่าหากการนำร่องนี้ได้รับการตอบรับที่ดี จะสามารถวางระบบการเรียนรู้ภาษาไทยในระดับสากลได้อย่างครอบคลุมมากขึ้นในอนาคต
ใน “วันภาษาไทยแห่งชาติ” ปีนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่นขอร่วมภาคภูมิใจในภาษาไทยที่ไม่เพียงเป็นรากของความเป็นไทย แต่ยังเป็น Soft Power ของชาติที่สามารถสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และมิตรภาพบนเวทีนานาชาติได้อย่างงดงามและยั่งยืน