“มข.-ม.อ.-มช.” ผนึกกำลัง 3 พลังเพื่อแผ่นดิน ขับเคลื่อนระบบประเมินผลกระทบ เศรษฐกิจ-สังคม สู่มาตรฐานระดับชาติ

วันที่ 30–31 กรกฎาคม 2568 มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายวิสาหกิจและสังคมยั่งยืน ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช พิบูลย์รุ่งโรจน์ ผู้ช่วยอธิการบดี และ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จุมพล ชื่นจิตต์ศิริ รองอธิการบดีฝ่ายกฎหมายและบริการวิชาการ เดินหน้าขับเคลื่อนความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง ภายใต้กรอบแนวคิด “3 พลังเพื่อแผ่นดิน” ผ่านกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิงปฏิบัติการ ณ ห้องประชุม 210 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่

การประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อวางแนวทางร่วมในการพัฒนาระบบมาตรฐานการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม ครอบคลุมทั้งในระดับภารกิจและโครงการ พร้อมทั้งร่วมกันพัฒนาหลักสูตรอบรม เพื่อยกระดับศักยภาพบุคลากร และทดสอบแพลตฟอร์มกลางในการบริหารจัดการการประเมินผล ที่สามารถนำไปขยายผลในระดับประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม

ในการนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ให้เกียรติร่วมต้อนรับคณะผู้บริหารจากทั้งสามมหาวิทยาลัย โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จุมพล ชื่นจิตต์ศิริ กล่าวเปิดกิจกรรมและเน้นย้ำบทบาทของมหาวิทยาลัยในฐานะกลไกหลักในการขับเคลื่อนสังคมผ่านการวิจัยและระบบการประเมินที่มีมาตรฐาน

กิจกรรมมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ อาทิ ด้านการแพทย์ เกษตร เศรษฐศาสตร์ สังคม และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พร้อมทั้งร่วมวางแผนจัดอบรมเชิงปฏิบัติการและทดสอบเครื่องมือประเมินที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในเดือนสิงหาคมนี้


ความร่วมมือจากทั้ง 3 มหาวิทยาลัย มีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะด้านการส่งเสริมการศึกษาที่มีคุณภาพ (SDG 4) การสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงานที่มีคุณค่า (SDG 8) การลดความเหลื่อมล้ำ (SDG 10) การสร้างระบบบริหารจัดการที่โปร่งใสและมีมาตรฐาน (SDG 16) และการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วน (SDG 17) ซึ่งล้วนเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับประเทศ โดย มข.-ม.อ.-มช. ให้ความสำคัญกับการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมครอบคลุมในทุกระดับ ผลลัพธ์ในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับกระบวนการประเมินผลให้เป็นระบบ และสามารถนำไปต่อยอดใช้ในเชิงนโยบายและการพัฒนาได้อย่างเป็นรูปธรรม อันจะส่งผลเชิงบวกต่อสังคมไทยอย่างยั่งยืนในระยะยาว

 

Scroll to Top