วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ มข. เปิดงาน Computing Fair ครั้งที่ 3 หลอมรวมศาสตร์สู่อนาคตไทย

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดพิธีเปิดงาน Computing Fair ครั้งที่ 3 ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “Fusion Intelligence: Empowering Interdisciplinary Collaboration” ณ ห้อง Auditorium อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมี รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและนวัตวณิชย์ เป็นประธานในพิธีเปิด

รศ.ดร.สิรภัทร เชี่ยวชาญวัฒนา คณบดีวิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ กล่าวว่า “งาน Computing Fair ครั้งที่ 3 ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด ‘Fusion Intelligence: Empowering Interdisciplinary Collaboration’ ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการบูรณาการความรู้ระหว่างศาสตร์ต่าง ๆ เพื่อพัฒนาทักษะและศักยภาพของนักเรียน นักศึกษา อาจารย์ และนักวิจัย ผ่านกิจกรรมด้านวิชาการ การแข่งขันและนิทรรศการเทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งเปิดพื้นที่ให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา ภาคเอกชน และหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ”

รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช กล่าวว่า “งาน Computing Fair ครั้งที่ 3 ประจำปี 2568 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘Fusion Intelligence: Empowering Interdisciplinary Collaboration’ อันสะท้อนถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของวิทยาลัยการคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในการผลักดันองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและปัญญาประดิษฐ์ให้มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาสังคมในทุกมิติ”

พร้อมยังเน้นย้ำว่า “การหลอมรวมศาสตร์และเทคโนโลยี AI จะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาแรงงานไทยให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต งานนี้จึงเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานทุกท่านได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ วิจัยและนวัตกรรม ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการบรรยายพิเศษโดยท่านผู้ทรงคุณวุฒิ การจัดแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่เกิดจากความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน การจัดเวที Pitching และ Hackathon ร่วมกับภาคอุตสาหกรรม”

งานยังได้รับเกียรติจาก ดร.ปิยะวัฒน์ จริยเศรษฐพงศ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการค้า บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) บรรยายหัวข้อ “A Fusion of Disciplines: The Future of Thailand’s Workforce in an AI-Driven World การหลอมรวมศาสตร์: อนาคตของแรงงานไทยในโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI” ที่แชร์ประสบการณ์จริงจากอุตสาหกรรมและแนวทางการพัฒนาทักษะแรงงานไทยให้พร้อมรับมือกับเทคโนโลยี AI

ตามด้วย ท่านสุรพล เพชรวรา อุปนายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น และอดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศชิลี บรรยายเรื่อง “The Impact of AI on Thai Society ผลกระทบต่อสังคมไทยในยุคของ AI” ที่นำเสนอมุมมองเชิงนโยบายและประสบการณ์ระดับสากลเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของสังคมไทยรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในยุค AI

จากนั้น รศ.ดร.รัตติกร วรากูลศิริพันธุ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลสถาบันไทยโคเซ็น โดยสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้บรรยายในหัวข้อ “ความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษา ภาคเอกชน และต่างประเทศ กับการขับเคลื่อนนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล” ขยายมุมมองเรื่องการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อแนะแนวทางการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนและส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

โดยภายในงานได้มีการแข่งขันและกิจกรรมพิเศษ ได้แก่

กิจกรรม Krungsri UniVerse x KKU Hackathon “TourTech Challenge – พลิกโฉมการท่องเที่ยวไทยด้วยเทคโนโลยี” การแข่งขันพัฒนาต้นแบบนวัตกรรมด้านการเงินและการธนาคาร ร่วมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์และทักษะด้านเทคโนโลยี ร่วมกันแก้โจทย์จริงจากภาคธุรกิจ ฝึกกระบวนการทำงานเป็นทีม และสร้างสรรค์โซลูชันที่สามารถนำไปต่อยอดใช้งานได้จริง

โดยได้รับเกียรติจากกรรมการผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ ได้แก่ คุณประมุข แจ่มจันทึก หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), ผศ.ดร.สุรพล วรภัทราทร จากสำนักวิชาเทคโนโลยีดิจิทัล มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และ คุณสวรินทร์ เหลี่ยมวัฒนกุล ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายพัฒนาธุรกิจและที่ปรึกษาด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล บริษัท ดิจิคเทคโนโลยี จำกัด ชิงเงินรางวัลกว่า 50,000 บาท โดยทีมนักศึกษาได้แสดงความสามารถและคว้ารางวัลมาได้ดังนี้

รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล 30,000 บาท ได้แก่ ทีม “I’m the boss” ประกอบด้วย นายศุภวัฒน์ ข่ายทอง (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์), นายรัฐภูมิ เกิดพระจีน (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์), นายสุปวีร์ มะธุเสน (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล), นายณัฏฐวัฒน์ แก้วนพจิตร (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล) และนายวสุ ชื่นชม (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล)

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 20,000 บาท ได้แก่ ทีม “P.D.A.B” ประกอบด้วย นางสาวสิริกาญจน์ เนตรพุกกณะ (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์)ล นางสาววรัญญา ทาคำ (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์), นางสาวนภัส แก้วสีขาว (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์), นางสาวรัญชนา บุญราศรี (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาการจัดการธุรกิจบริการและอีเวนต์)

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 10,000 บาท ได้แก่ทีม “plz I need Champ” ประกอบด้วย นายปาณนันท์ พันธะศรี (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาปัญญาประดิษฐ์), นางสาวอรจิรา แสนตา (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์), นายวัชรวิศว์ ชัยปลื้ม (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์), นายวีรภัทร แก้วคำลา (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์) และนายธนโชติ ศิริสำราญ (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัลและเทคโนโลยีการตลาด)

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม FusionX: AI x DE การผสานศาสตร์ระหว่างหลักสูตรปัญญาประดิษฐ์ (AI) วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ กับหลักสูตรผู้ประกอบการดิจิทัล (DE) คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี ร่วมกันพัฒนานวัตกรรม หรือแอปพลิเคชัน AI ผ่านกระบวนการคิดเชิงออกแบบ กระบวนการพัฒนานวัตกรรม ความรู้ทางเทคนิคของปัญญาประดิษฐ์ มาผสานกับการวางแผนธุรกิจ และวิเคราะห์ตลาด โดยมีทีมนักศึกษาที่แสดงศักยภาพในการพัฒนานวัตกรรม AI เพื่อแก้ไขปัญหาสังคมและสร้างโอกาสทางธุรกิจ

รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล 3,000 บาท ได้แก่ กลุ่ม G07 โครงงาน “Emergency Patient Motion Monitor” ระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวผู้ป่วยฉุกเฉินด้วย AI ประกอบด้วย

  • ธนรัตน์ แซ่เฮีย (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาปัญญาประดิษฐ์)
  • กฤษณพงษ์ สงครามสงค์ (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาปัญญาประดิษฐ์)
  • ธนธร บุญเต็ม (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาปัญญาประดิษฐ์)
  • ภควัต ชูโชติรส (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาปัญญาประดิษฐ์)
  • ภิณัฐคณิน พิสิษฐกุล (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาปัญญาประดิษฐ์)
  • นางสาวเขมิกา แซมทอง (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล)
  • นางสาวปวีณา จีนสว่าง (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล)
  • วิษณุวัฒน์ เหมพันธ์ (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล)
  • กัลยาพร กางจันทา (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล)
  • อรอนงค์ คะกะเนปะ (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล)

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ กลุ่ม G01 โครงงาน “AI-based Cattle Estrus Management System” ระบบจัดการการผสมพันธุ์โคด้วย AI ประกอบด้วย

  • สุรพจน์ หินศรี (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาปัญญาประดิษฐ์)
  • ปิยภัทร รัตนรักษ์ (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาปัญญาประดิษฐ์)
  • พงษกร มานาดี (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาปัญญาประดิษฐ์)
  • ธนเดช วาตรีบุญเรือง (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาปัญญาประดิษฐ์)
  • แพรวา ศรีหานาม (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล)
  • ภูมิพัฒน์ ดลโสภณ (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล)
  • ชลกร เรืองวชิรปัญญา (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล)
  • ปรมินทร์ โสภาคำ (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล)
  • กมลชนก ปัทถาพงษ์ (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล)
  • กันตธร ศรีหิรัญ (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล)

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 ได้แก่ กลุ่ม G10 โครงงาน “AI Voice Pre-Screener for Dementia” ระบบตรวจคัดกรองภาวะสมองเสื่อมด้วยเสียงพูดและ AI ประกอบด้วย

  • ญาณาธร บุญลือ (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาปัญญาประดิษฐ์)
  • เอกราช คำภู (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาปัญญาประดิษฐ์)
  • ธิบดินทร์ อินทร (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาปัญญาประดิษฐ์)
  • ธนภัทร สรรพอาสา (วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ สาขาปัญญาประดิษฐ์)
  • ธนบดี วิเศษดอนหวาย (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล)
  • พีรวิชญ์ ทองป้อง (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล)
  • ทัศนีย์ มโนมัย (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล)
  • นันทิยา สาลาด (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล)
  • รัตนากร เกตุพิมล (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล)
  • นิพิฐพนธ์ พิมพ์จันทร์ (คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาผู้ประกอบการดิจิทัล)

โดยผลงานทั้ง 3 อันดับล้วนเป็นนวัตกรรมที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาในสังคมจริง ตั้งแต่การดูแลสุขภาพผู้ป่วยฉุกเฉิน การจัดการฟาร์มปศุสัตว์ ไปจนถึงการคัดกรองโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ

ภายในงาน Computing Fair ครั้งที่ 3 ยังมีเวิร์กช็อปพิเศษจากบริษัท NVIDIA เรื่อง “From hours to minutes: Accelerate AI computing, Scientific computing and Gene sequencing with NVIDIA SDKs” ณ ห้อง The Beegins ชั้น 1 ที่ได้พาผู้เข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การเร่งประสิทธิภาพการคำนวณด้วยเทคโนโลยี GPU ระดับโลกแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยี NVIDIA ในการลดเวลาการประมวลผลจากหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที โดยแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีการคำนวณขั้นสูงสามารถเชื่อมโยงและเร่งการวิจัยข้ามศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ AI, วิทยาการข้อมูล, ไปจนถึงการวิจัยทางชีววิทยาและการแพทย์ พร้อมด้วยนิทรรศการและนวัตกรรมดิจิทัล การประยุกต์ใช้ AI ในด้านต่างๆ ได้แก่

  • AI-based Behavioral Monitoring in Laboratory Mice วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ ร่วมมือกับ คณะเภสัชศาสตร์
  • AI-assisted Lifting Handling Risk Assessment ประเมินความเสี่ยงของงานยกเคลื่อนย้าย วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ ร่วมมือกับ คณะสาธารณสุขศาสตร์
  • AI-assisted Assessment of Impacted Canine Teeth ประเมินฟันเขี้ยวฝังวิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ ร่วมมือกับ คณะทันตแพทยศาสตร์

รวมถึงการประยุกต์ใช้ AI ในอุตสาหกรรม จากพาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรมชั้นนำ ได้แก่บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน), บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน), บริษัท เอ็นวิเดีย (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท พีทีโอเอเซ็นเตอร์ จำกัด และบริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย)

งาน Computing Fair ครั้งที่ 3 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 สิงหาคม 2568 โดยเป็นเวทีสำคัญในการแสดงศักยภาพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และนักศึกษา เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน และขอขอบคุณอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ได้เอื้อเฟื้อสถานที่ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้

Scroll to Top