ปัจจุบันพลังงานทางเลือกได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและไม่ก่อให้เกิดมลพิษในปริมาณมาก เป็นเรื่องดีที่มักเห็นรถไฟฟ้าในท้องถนนมากขึ้น บ้านที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ก็ล้วนเป็นพลังงานสะอาดลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน โดยการเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานน้ำ แต่มักจะใช้วัสดุจากต่างประเทศทำให้ต้นทุนราคาแพงจับต้องยากและยังไม่ แพร่ หลายในประเทศไทยมากนัก
มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงพัฒนาพลังงานทางเลือกประเภทแบตเตอรี่ ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (BESS) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กักเก็บพลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และลม เพื่อเพิ่มเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าและลดความผันผวนของพลังงาน ซึ่งเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่สำคัญและกำลังพัฒนา ได้แก่ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-ion Battery) ที่มีความหนาแน่นพลังงานสูง และ แบตเตอรี่โซเดียมไอออน (Sodium-ion Battery) ที่มีราคาถูกและใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายกว่า รวมถึงการนำ แบตเตอรี่ที่ใช้แล้ว มาประยุกต์ใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบ BESS เพื่อสร้างความยั่งยืนในระบบพลังงาน โดยผนึกกำลังกับบริษัท เอสโก้ คอร์เปอเรชั่น เพื่อบูรณาการความร่วมมือด้านการพัฒนาเทคโนโลยี ระบบกักเก็บพลังงาน (BESS) และ อุปกรณ์อินเวอร์เตอร์พร้อมระบบบริหารจัดการพลังงาน(SEMPLY) โดยมีเป้าหมายสร้างแบตเตอรี่ที่ใช้ภายในบ้านทั้งหลัง หรือโรงงานอุตสาหกรรมที่สามารถใช้แทนไฟฟ้าได้อย่างเสถียร เพื่อผลักดันการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานสะอาดที่พัฒนาโดยคนไทยสู่เชิงพาณิชย์ ในราคาที่ย่อมเยาจับต้องได้
โรงงานแบตเตอรี่ มข. kkUVolts จับมือ เอสโก้ คอร์เปอเรชั่น ผนึกกำลังพัฒนา BESS และ Inverter พร้อมระบบริหารจัดการ
โรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะหน่วยงานวิสาหกิจที่พัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ภายใต้แบรนด์ kkl UVolts จะรับผิดชอบในการ พัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและโซเดียมไอออน พร้อมระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่เพื่อใช้เป็น BESS สำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ โดยมีระบบ IOT Monitoring และได้รับการรับรองตามมาตรฐานอุตสาหกรรมสากล ขณะที่ เอสโก้ คอร์เปอเรชั่น (ESSCO) จะสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์อินเวอร์เตอร์ควบคู่ระบบบริหารจัดการพลังงาน (SEMPLY) รวมถึงการให้การสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถทดสอบและประเมินประสิทธิภาพของระบบร่วมกันในสภาพแวดล้อมการใช้งานจริง
โรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ มหาวิทยาลัย ขอนแก่น จึงได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOA) กับบริษัท เอสโก้ คอร์เปอเรชั่น เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา เพื่อบูรณาการความร่วมมือด้านการพัฒนาเทคโนโลยี ระบบกักเก็บพลังงาน (BESS) และ อุปกรณ์อินเวอร์เตอร์พร้อมระบบบริหารจัดการพลังงาน(SEMPLY) โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานสะอาดที่พัฒนาโดยคนไทยสู่เชิงพาณิชย์ พร้อมสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ไทยที่แข็งแกร่งยั่งยืน และสามารถแข่งขันในระดับสากล
รศ.ดร. นงลักษณ์ มีทอง ผู้อำนวยการโรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า “ความร่วมมือกับ เอสโก้ คอร์เปอเรชั่น ครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการยกระดับอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดของไทยแบบครบวงจร ตั้งแต่แบดเตอรี่ไปจนถึงระบบควบคุมและจัดการพลังงาน โดยมุ่งหวังให้เทคโนโลยีที่พัฒนาโดยคนไทยสามารถตอบโจทย์การใช้งานจริงได้ในระดับอุตสาหกรรม ลดการพึ่งพาการนำเข้า และเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและเศรษฐกิจของประเทศ”
ด้านคุณวิชิต พลสูงเนิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสโก้ คอร์เปอเรชั่น กล่าวเสริมว่า “ESSCO ภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์และระบบริหารจัดการพลังงาน(SEMPLY) โดยฝีมือวิศวกรไทย เพื่อนำมาเชื่อมโยงกับระบบแบตเตอรี่ของ kkUVolts ให้เกิดเป็นโซลูชันพลังงานสะอาดแบบครบวงจร ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นจดเริ่มต้นในการพัฒนาแพลตฟอร์มพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่เป้าหมาย Net Zero ของประเทศ”
การผนึกความร่วมมือทั้งสองหน่วยงานครั้งนี้ จึงช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานสมัยใหม่ที่พัฒนาโดยคนไทยให้แพร่หลายมากขึ้น พร้อมทั้งสร้างการรับรู้และระบบนิเวศ (Ecosystem) ของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่และพลังงานที่ขับเคลื่อนโดยคนไทย ซึ่งจะช่วยลดการนำเข้าชิ้นส่วนสำคัญ ลดต้นทุนการผลิต และสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการจ้างงาน การใช้วัตถุดิบในประเทศ และการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่บุคลากรไทย
ระบบพลังงานสะอาดยุคใหม่ ความหวังแห่งขุมพลังทางเลือกไทยและชาวโลก
ความร่วมมือดังกล่าวยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ซึ่งสามารถลดการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ได้เฉลี่ยกว่า 1.2 ตัน CO2 ต่อครัวเรือนต่อปี โดยสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDDGs) ได้แก่ SDG 7: Affordable and Clean Energy. SDG 9: Industry, Innovation and Infrastructure และ SDG 13: Climate Action ร่วมทั้งเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายเสริมจุดแข็งของกันและกันในการพัฒนา Total Energy Solution ที่ครอบคลุมตั้งแต่แบตเตอรี่ไปจนถึงระบบควบคุมพลังงาน (Power Electronics)
kkUVolts การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานทางเลือก ยังช่วยเพิ่มความมั่นคงทางพลังงาน กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว นับเป็นหัวใจสำคัญของระบบพลังงานสะอาดยุคใหม่ และเป็นความหวังแห่งพลังงานทางเลือกไทยและชาวโลกในอนาคต
บทความ / ภาพ : จิราพร ประทุมชัย
ท่านที่สนใจแบตเตอรี่และอินเวอร์เตอร์ใช้ในอุตสาหกรรม หรือใช้ในตัวบ้านติดต่อที่ kkUVolts 043 009700 ต่อ 50659 หรือ 094 2753941
https://www.facebook.com/photo?fbid=1607481323848847&set=pcb.1607482380515408