เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 จัดโดยศูนย์อาเซียนศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ ศูนย์วิจัยพหุลักษณ์สังคมลุ่มน้ำโขง มข.ร่วมกับ สาขาวิชาลุ่มน้ำโขงศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มข. ได้จัดงาน “เสวนาวิชาการด้านลุ่มน้ำโขงศึกษา” และ เปิดตัวหนังสือ Intertextuality in the Mekong Subregion หรือ สหบทในอนุภาคลุ่มน้ำโขง ณ ห้องประชุม 3218 อาคาร HS 03 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น งานเสวนาครั้งนี้ได้รับความสนใจจากคณาจารย์ นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไปเป็นจำนวนมาก โดยภายในงานมีการบรรยายและแลกเปลี่ยนมุมมองจากนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและพลวัตทางสังคมในอนุภาคลุ่มน้ำโขง การเสวนาแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ :
ช่วงที่ 1 ดำเนินรายการโดย ผศ.ดร.จักรพันธ์ ขัดชุ่มแสง
วิทยากรประกอบด้วย
1.ผศ.ดร.กีรติพร จูตะวิริยะ หัวข้อ Thai Y Series Fan Culture in the Mekong Subregion
2.ผศ.ดร.ปิยะพร ปุณณกะศิริกุล หัวข้อ “Almost Everything Can Be a Lucky Charm in Thailand”: The Commodification of Luck in Online Promotional Texts of Thai Businesses
3.อ.ดร.รัชนี ปิยะธำรงชัย หัวข้อ Japanization, Its Impacts on Thai Food Culture, and Food Culture Hybridization: A Case Study of Japanese-Isan Cuisine in Khon Kaen Province, Thailand
ช่วงที่ 2 อ. พีรวิชณ์ สัทธรรมนุวงศ์
วิทยากรประกอบด้วย
1.รศ.ดร.ธนนันท์ บุ่นวรรณา หัวข้อ The Hoang Sa Islands in Chau Ban Trieu Nguyen (1802 – 1945): A Preliminary Study
2.อ.ดร.แก้วตา จันทราณุสรณ์ หัวข้อ Ecological Consciousness of the Mekong Basin Composer: Pongsak Chantharukha
3.อ.ดร.กันตพงศ์ จิตต์กล้า หัวข้อ Analyzing French Cultural Legacy in Ho Chi Minh City: A Review of French-Derived Loanwords in Vietnamese Language
ประเด็นการเสวนาแต่ละหัวข้อได้สะท้อนให้เห็นถึง “สหบท” (Intertextuality) คือการเชื่อมโยง แลกเปลี่ยน และหลอมรวมกันของเรื่องราวทางวัฒนธรรม สังคม และเศรษฐกิจของผู้คนในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมแฟนคลับ วัฒนธรรมอาหาร ศิลปะ ดนตรี ไปจนถึงมรดกทางภาษาและอิทธิพลจากต่างชาติ การจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเวทีทางวิชาการเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างประเทศในลุ่มน้ำโขงเท่านั้นแต่ยังเป็นการเปิดมุมมองใหม่ ๆ ต่อวัฒนธรรมร่วมสมัยของภูมิภาค และส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการระหว่างนักวิจัยในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงอีกด้วย
ข่าว/ภาพ: ศูนย์อาเซียนศึกษา มข.
