สำนักทะเบียนและประมวลผล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้จัดงานงานสัมมนา เรื่อง “การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการทะเบียนการศึกษาในยุคดิจิทัลด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI)” ในวันพฤหัสบดีที่ 30 – วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2568 ณ โรงแรม เดอะแกรนด์ ชัยพฤกษ์ นิมมาน จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีสถาบันการศึกษาทั่วประเทศเข้าร่วม 43 สถาบันและผู้เข้าร่วมมากกว่า 300 คน เพื่อเปิดโอกาสให้แลกเปลี่ยน เรียนรู้ และร่วมมือกันเพื่อสร้างและพัฒนาระบบการให้บริการด้านระบบทะเบียนและการสนับสนุนการจัดการศึกษาให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้รับบริการและความก้าวหน้าของเทคโนโลยี สำนักบริหารและพัฒนาวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่นซึ่งเป็น 1 ใน 6 สถาบันที่มีการลงนามความร่วมมือด้านระบบทะเบียนของประเทศ (มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขอนแก่น เชียงใหม่ วลัยลักษณ์ ธรรมศาสตร์และสถาบันฯ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง) ได้เข้าร่วมกิจกรรมและนำเสนอผลงานที่สำคัญ1. “KKU IntelSphere: นิเวศแห่งการเรียนรู้ และยกระดับการทำงานด้านสนับสนุนการศึกษาและทะเบียน” ซึ่งมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในด้านการสร้างนิเวศของสิ่งสนับสนุนที่โดดเด่นเพื่อให้นำปัญญาประดิษฐ์ไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในทุกมิติ และใช้อย่างถูกต้องมีจรรยาบรรณ
2. “KKU-CORE-C & CISA”: เพื่อวางรากฐานระบบตรวจสอบคุณภาพหลักสูตรแบบอัตโนมัติ ช่วยให้มหาวิทยาลัยเข้าถึงข้อมูลผลลัพธ์การเรียนรู้ได้ทันที รวมทั้งการติดตามสถานะหลักสูตรได้ทุกขั้นตอนและการส่งรับทราบหลักสูตร ซึ่งจะเป็นระบบเพื่อรองรับการสร้างมาตรฐานใหม่ของความโปร่งใสด้านข้อมูล (Data Transparency) ซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปบางส่วนแล้ว
3. KM จำนวน 2 เรื่อง ภายใต้แนวคิด Knowledge Innovation & Digital Trust ทำ KM ให้เป็นสินทรัพย์ขององค์กร โดยเรื่องที่นำเสนอ คือ (1) “KNOWCERT: ความรู้ ความน่าเชื่อถือ และการรับรองที่ตรวจสอบได้” (Knowledge + Certificate/Credential: KKU Digital transcript and Smart Traceability) และ (2) “KM ที่แตะได้: เมื่อความรู้กลายเป็นตู้บริการ 24 ชั่วโมง (KKU-KAD)” ซึ่งผลงานทั้ง 2 เรื่องเป็นผลงานที่ได้รับรางวัลทั้งในระดับมหาวิทยาลัย ประเทศและนานาชาติ และนำมาถอดบทเรียนผ่านกระบวนการจัดการความรู้ (KM Process) เช่น การบ่งชี้ความรู้ (Knowledge Identification) การแสวงหาและสร้างความรู้ (Knowledge Creation and Acquisition) การจัดความรู้ให้เป็นระบบ (Knowledge Storage) การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ (Knowledge Sharing) การเรียนรู้และประยุกต์ใช้ความรู้ (Knowledge Application) เพื่อให้ KM เกิดขึ้นและแตะต้องได้จริง
4. การร่วมแสดงนิทรรศการ 2 ผลงาน “(1) ระบบและตู้ออกเอกสารสำคัญทางการศึกษาอัตโนมัติ (KKU KAD)” และ “(2) การแสดงผลงาน “CWIE-Skill Transcript” เชื่อมโยงระบบประเมินทักษะของนักศึกษากับสถานประกอบการ สร้างฐานข้อมูลความสามารถจริง (Competency Mapping) ที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงานในอนาคต โดยให้สถานประกอบการเป็นผู้ประเมินและออกใบรับรองทักษะดิจิทัลให้นักศึกษา
นอกจากนี้ยังมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งด้าน Registration Invention, Future Skill, Present and Future Admission และซะป๊ะ (หลากหลาย) งานทะเบียน รวมถึงการลงมือทำ Workshop เช่น Gen AI เปลี่ยนเกมงานทะเบียน AI Experience Clinic เป็นต้น นอกจากจะเป็นเวทีให้สำนักบริหารและพัฒนาวิชาการ ใช้เสนอผลการดำเนินการที่โดดเด่นต่อสาธารณะซึ่งมุ่งเน้นการเสนอผลงานเพื่อตอบสนองนโยบาย KKU Digital transformation แล้ว ยังเป็นผลงานเชิงประจักษ์ที่สะท้อนการการคิดและอุทิศเพื่อสังคม (Societal Contribution) รวมทั้งการสร้างโอกาสให้บุคลากรได้เรียนรู้และสร้างเครือข่ายต่างสถาบันซึ่งเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการการพัฒนาบุคลากรให้มีสมรรถนะสูงขึ้น














