สภา มข. เห็นชอบขึ้นทะเบียนระบบคลังหน่วยกิต เชื่อมทุกการเรียนรู้สู่วุฒิการศึกษา ไม่ว่าจะเรียนที่ไหน เมื่อไหร่ก็นำมาใช้ได้

มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก้าวสู่ยุคใหม่ของการศึกษาหลังสภามหาวิทยาลัยเห็นชอบให้ขึ้นทะเบียนระบบคลังหน่วยกิตกับสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถ “ฝากความรู้” จากทุกแหล่งการเรียนรู้ และนำมาใช้ประโยชน์ในการศึกษาต่อได้จริง ระบบนี้ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าการศึกษาไทย ทำลายกำแพงระหว่างการเรียนในและนอกระบบ

“คลังหน่วยกิต” ไม่ใช่ฝากตัวเลข แต่ฝากความสามารถ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เด่นพงษ์ สุดภักดี รองอธิการบดีฝ่ายการศึกษาและดิจิทัล และเลขานุการสภามหาวิทยาลัย เปิดเผยผ่านรายการ KKU Inside Council ว่า ระบบคลังหน่วยกิต (Credit Bank) มีความหมายแตกต่างจากที่หลายคนเข้าใจ “คลังหน่วยกิตไม่ได้ฝากจำนวนหน่วยกิต 1, 2, 3 แต่เป็นการฝากความรู้ความสามารถที่ได้รับจากการเรียนรู้ทุกรูปแบบ เปรียบเหมือนธนาคารที่รับฝากความรู้ แล้วคนที่ต้องการใช้ก็สามารถนำไปตีค่าเป็นหน่วยกิตได้ตามความเหมาะสม” การดำเนินการนี้เป็นไปตามประกาศของ สป.อว. ที่กำหนดให้สถาบันอุดมศึกษาที่มีระบบคลังหน่วยกิต ขอขึ้นทะเบียนภายใน 3 ปี โดย มข. มีระบบนี้ดำเนินการมาแล้วหลายปี และพร้อมยกระดับสู่มาตรฐาน ระดับชาติ

เรียนที่ไหนก็ได้ ทุกความรู้มีค่า
ผศ.ดร.เด่นพงษ์ อธิบายว่า ระบบคลังหน่วยกิตของ มข. รองรับ การเรียนรู้ทั้ง 3 ระบบ ได้แก่
1. การศึกษาในระบบ เป็นการเรียนในสถาบันการศึกษาแบบเดิม ที่ได้วุฒิบัตร ประกาศนียบัตร หรือปริญญา
2. การศึกษานอกระบบ เช่น การฝึกอบรมจากหน่วยงานต่างๆ, หลักสูตรระยะสั้นของมหาวิทยาลัย, การเรียนรู้จากองค์กรภาคเอกชน
3. การศึกษาตามอัธยาศัย เช่น การเรียนรู้ด้วยตนเองจาก YouTube, Podcast, AI, การฝึกฝนทักษะจากประสบการณ์จริง และการพัฒนาความสามารถจนเชี่ยวชาญ
“ไม่ว่าคุณจะเรียนรู้จากที่ไหน ด้วยวิธีใด ทุกความรู้สามารถนำมาฝากไว้ในระบบได้”

ใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่ใช่แค่เก็บไว้ชม
ผศ.ดร.เด่นพงษ์ อธิบายต่อว่า ความรู้ที่ฝากไว้ในคลังสามารถนำไปใช้ได้หลากหลาย เช่น สามารถเทียบโอนเป็นหน่วยกิต ช่วยลดระยะเวลาเรียนจบปริญญา, นำไปประกอบบนโปรไฟล์ออนไลน์หรือ Resume ได้, ใช้ประกอบการสมัครงาน เพื่อพิสูจน์ความสามารถจริง, ใช้ในการประกวดแข่งขัน หรือขอรับรางวัล และใช้สะสมเพื่อการศึกษาต่อในอนาคต

คนมีประสบการณ์สูง ไม่ต้องเรียนก็ได้เครดิต
ผศ.ดร.เด่นพงษ์ ยกตัวอย่างที่น่าสนใจว่า “สมมติมีคนทำงานถ่ายภาพ-วิดีโอมาหลายปี มีฝีมือดีกว่าคนเรียนจบตรงสาขาด้วยซ้ำ แต่ไม่เคยมีใบประกาศ คนกลุ่มนี้สามารถขอสอบวัดความรู้ หรือส่งผลงานให้อาจารย์ประเมิน ถ้าผ่านเกณฑ์ก็จะได้หน่วยกิตวิชานั้นทันที โดยไม่ต้องเข้าเรียน” นี่คือการยอมรับความสามารถจริงมากกว่าแค่กระดาษใบประกาศ

เทียบโอนอย่างไร? ต้องผ่านมาตรฐาน
สำหรับ การนำความรู้จากคลังมาเทียบโอน ไม่ใช่กระบวนการอัตโนมัติ แต่มีขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพ ดังนี้
1. ยื่นคำขอ – ระบุว่าต้องการเทียบวิชาใด
2. คณะพิจารณา – ตรวจสอบเนื้อหา ระยะเวลา วิธีวัดผล
3. กำหนดหน่วยกิต – อาจเท่ากันหรือต่างจากต้นทาง
4. ทดสอบเพิ่มเติม (ถ้าจำเป็น) – ยืนยันความสามารถ
5. เรียนเพิ่ม – วิชาที่ยังไม่ครบตามหลักสูตร
“เปรียบเหมือนต้องการเรียน MBA ต้องใช้ 40 หน่วยกิต แต่เทียบได้ 15 หน่วยกิต ก็ต้องเรียนเพิ่มอีก 25 หน่วยกิตให้ครบ” ผศ.ดร.เด่นพงษ์ อธิบาย

เปิดให้ทุกคน ตั้งแต่เด็กนักเรียนถึงผู้เกษียณ
ระบบคลังหน่วยกิต มข. เปิดให้บริการแก่นักเรียนระดับประถม-มัธยมศึกษา, นักศึกษาปัจจุบัน, ผู้ที่ทำงานต้องการพัฒนาทักษะใหม่ (Upskill/Reskill), ผู้เกษียณอายุราชการ และประชาชนทั่วไปที่ต้องการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งไม่จำกัดอายุ ไม่จำกัดสถานะ ทุกคนเข้าถึงได้
มข. เป็น “ธนาคารพาณิชย์” เชื่อมสู่ “ธนาคารกลาง” ของชาติ
การขึ้นทะเบียนกับ สป.อว. จะทำให้ระบบของ มข. เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลกลางระดับชาติ “เหมือนกับระบบธนาคาร มข. เป็นเหมือนธนาคารพาณิชย์ที่รับฝากความรู้ ส่วน สป.อว เป็นธนาคารกลางที่เชื่อมโยงข้อมูล ทุกสถาบัน” ผศ.ดร.เด่นพงษ์ เปรียบเทียบ เมื่อเชื่อมต่อกันแล้ว ผู้เรียนจะสามารถเรียนที่ มข. เทียบโอนที่ มช. หรือเรียนที่จุฬาฯ เทียบโอนที่ มข. โดยใช้ข้อมูลจากระบบรวบรวมความรู้จากหลายแหล่งมาสะสมในที่เดียว

ตอบโจทย์ตลาดแรงงานและภาคอุตสาหกรรม
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ยังได้วางแผนความร่วมมือกับภาคเอกชน หอการค้า และสภาอุตสาหกรรม เพื่อสำรวจความต้องการทักษะของตลาดแรงงาน, พัฒนาหลักสูตรที่ตรงกับความต้องการจริง ที่สำคัญผลิตกำลังคนที่พร้อมใช้งานทันที “เราไม่อยากให้ความรู้ที่ฝากไว้ในคลังไม่มีใครมาถอนใช้ เราจึงต้องผลิตความรู้ที่ตลาดต้องการ” มหาวิทยาลัยมอบหมายให้ 2 หน่วยงานหลักขับเคลื่อนระบบ คือ สำนักบริการวิชาการ ทำหน้าที่จัดหลักสูตรฝึกอบรมและพัฒนาทักษะ ส่วนสำนักทะเบียนและประมวลผล ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลและตรวจสอบคุณภาพ

ก้าวสำคัญสู่สังคมแห่งการเรียนรู้
ระบบคลังหน่วยกิต หรือ Credit Bank ถือเป็นนวัตกรรมการศึกษาที่จะทำลายกำแพงการศึกษาโดยจะเชื่อมการศึกษาในระบบกับการศึกษานอกระบบ, สร้างความยืดหยุ่นในระบบของการศึกษาโดยสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา และยอมรับความหลากหลาย เพราะทุกการเรียนรู้มีคุณค่า อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ ลดความเหลื่อมล้ำทางด้านการศึกษา เพราะทุกคนเข้าถึงการศึกษาสูงได้ “นี่คือก้าวสำคัญในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ที่ทุกคนมีโอกาสพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงชีวิตใด”

ผศ.ดร.เด่นพงษ์ ย้ำในตอนท้ายว่า สำหรับระบบคลังหน่วยกิตของ มข. พร้อมให้บริการแล้วในปัจจุบัน โดยการขึ้นทะเบียนกับ สป.อว. จะยกระดับให้เป็นระบบมาตรฐานที่เชื่อมโยงกับสถาบันอื่นทั่วประเทศ ความรู้ทุกชิ้นมีค่า ไม่ว่าจะได้มาจากไหน ทุกทักษะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้และทุกคนมีสิทธิ์พัฒนาตนเองตลอดชีวิต นี่คือวิสัยทัศน์ของการศึกษาไทยในยุคใหม่ที่ มหาวิทยาลัยขอนแก่นกำลังนำพาไปสู่ความเป็นจริง

ข่าว เบญจมาภรณ์ มามุข
ภาพ อรรถพล ฮามพงษ์ / ชายชาญ หล้าดา







